เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องมีในฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตามกฎหมาย พร้อมข้อมูลที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างความน่าเชื่อถือ และปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างครบถ้วน
ในยุคที่สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ และผู้คนให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพด้วยการเลือกทานอาหารเสริม การเข้าใจเกี่ยวกับฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นอยู่ในกลุ่มสินค้าที่มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ตนเลือกใช้นั้นปลอดภัยและมีคุณภาพ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นต้องประกอบด้วยข้อมูลอะไรบ้างและทำไมถึงสำคัญ

ฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คืออะไร?
ฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคือข้อมูลที่ระบุรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้บริโภคทราบ ก่อนที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อ โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยสำหรับการบริโภค
ทำไมฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถึงสำคัญ?
ฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีความสำคัญมากทั้งในด้านกฎหมายและการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งมีหลายเหตุผลที่ทำให้ฉลากมีบทบาทสำคัญในการตลาดและธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
1.การสร้างความน่าเชื่อถือ
การที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมีฉลากที่ครบถ้วนและถูกต้องตามกฎหมายจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภคเห็นว่าแหล่งผลิตมีการระบุข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ส่วนประกอบ วิธีการใช้งาน หรือคำเตือนต่างๆ ผู้บริโภคจะมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยและมีคุณภาพ
2.การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
การทำฉลากที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งถือเป็นการรักษาความถูกต้องและความปลอดภัยในการผลิตภัณฑ์ หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องหรือมีปัญหาทางกฎหมายที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจได้
3.การเพิ่มความโปร่งใส
ฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีข้อมูลครบถ้วนช่วยให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่โปร่งใสและเข้าใจได้ง่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น ปริมาณส่วนประกอบ วิธีการใช้งาน หรือข้อห้ามต่างๆ สิ่งนี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง
4.การป้องกันการหลอกลวง
ฉลากที่มีข้อมูลที่ชัดเจนช่วยป้องกันการหลอกลวงจากผู้ผลิตที่อาจจะไม่ได้รับการควบคุม หรือไม่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภค การมีฉลากที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยุติธรรม
5.การสร้างแบรนด์และความจดจำ
ฉลากที่ดีไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์และการจดจำของผู้บริโภค เมื่อฉลากมีดีไซน์ที่โดดเด่นและมีข้อมูลที่ชัดเจน มันก็สามารถสร้างความประทับใจและดึงดูดผู้บริโภคให้กลับมาซื้อซ้ำ
10 สิ่งที่ต้องมีบนฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
การทำฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ถูกต้องตามกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคและปฏิบัติตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีข้อมูลที่ต้องระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังนี้
1.ชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ชื่อผลิตภัณฑ์ต้องระบุคำว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” อยู่ในชื่อสินค้า หรือกำกับคำว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
2.เลขสารบบอาหาร
ต้องมีเลขสารบบอาหารที่แสดงว่าได้รับการจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยจะต้องแสดงในกรอบและตัวเลขต้องมีขนาดที่อ่านได้ชัดเจน
3.ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า
ระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า ทั้งนี้หากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผลิตในประเทศ จะต้องระบุที่ตั้งของผู้ผลิตในประเทศ หากนำเข้าก็ต้องระบุชื่อผู้นำเข้าและประเทศที่ผลิต
4.ปริมาณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ระบุปริมาณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น จำนวนเม็ดหรือแคปซูล หรือปริมาตรสุทธิหากเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของเหลว เพื่อให้ผู้บริโภคทราบถึงปริมาณของผลิตภัณฑ์
5.ส่วนประกอบสำคัญ
ระบุส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยแสดงปริมาณส่วนประกอบสำคัญในแต่ละหน่วย (เม็ด, แคปซูล, ช้อนตวง) ตั้งแต่ส่วนประกอบที่มีปริมาณมากไปหาน้อย
6.วิธีการรับประทาน
การระบุวิธีการรับประทานเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
7.ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร
ต้องระบุข้อมูลเกี่ยวกับการแพ้อาหาร เช่น “มี…….”, “อาจมี……” ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น กลูเตน, นม, ถั่วลิสง เป็นต้น
8.คำเตือน
ระบุคำเตือนที่สำคัญ เช่น “เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน” หรือ “ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค” เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้และเข้าใจข้อจำกัดในการใช้ผลิตภัณฑ์
9.วันหมดอายุหรือวันที่ควรบริโภคก่อน
ต้องมีการระบุวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ หรือ “ควรบริโภคก่อน” เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ยังคงมีคุณภาพและปลอดภัยในการใช้งาน
10.คำแนะนำการเก็บรักษา
ระบุวิธีการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ถูกต้อง เช่น “เก็บในที่แห้งและเย็น” หรือ “หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีแสงแดดตรง” เพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์
สรุป
การทำฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย แต่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยการมีข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถขายได้อย่างยาวนานและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างมั่นคง
อ่านบทความเพิ่มเติม: ฉลากสินค้า สติ๊กเกอร์ คืออะไร ไขข้อสงสัยทั้งหมดได้ที่เรา