กล่องพัสดุไปรษณีย์แต่ละขนาด - ใช้กล่องแบบไหนให้เหมาะกับสินค้าของคุณ?

ขนาดกล่องพัสดุแต่ละแบบ ใช้แบบไหนให้เหมาะกับสินค้า?

การเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะกับสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงช่วยให้สินค้าได้รับการปกป้อง แต่ยังช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในยุคที่ธุรกิจออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว การเลือก กล่องพัสดุ ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้อีกด้วย การเลือกขนาดกล่องที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการให้การขนส่งมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจะพาคุณไปดู ขนาดกล่องพัสดุ ที่นิยมใช้ในประเทศไทย พร้อมวิธีเลือกขนาดกล่องที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณกัน

แพ็คของส่งพัสดุอย่างไรให้ปลอดภัย? เลือกขนาดกล่องที่เหมาะสมกับสินค้า

ขนาดกล่องพัสดุ สำหรับสินค้า ขนาด เล็ก-ใหญ่

นี่คือตารางขนาดกล่องพัสดุต่างๆ ที่ใช้สำหรับสินค้าหลากหลายประเภท

ขนาดกล่องขนาด (ซม.)เหมาะสำหรับสินค้า
กล่องพัสดุเบอร์ 009.75 x 14 x 6สินค้าขนาดเล็กมาก เช่น ของขวัญเล็ก ๆ, สินค้าแบรนด์เนมขนาดเล็ก
กล่องพัสดุเบอร์ 011 x 17 x 6สินค้าขนาดเล็ก เช่น ถุงเท้า, เครื่องสำอาง, สินค้ากิ๊ฟช็อป
กล่องพัสดุเบอร์ A14 x 20 x 6สินค้าขนาดเล็กถึงกลาง เช่น เสื้อผ้าชิ้นเล็ก
กล่องพัสดุเบอร์ B17 x 25 x 9สินค้าขนาดกลาง เช่น เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, สินค้าบริโภคทั่วไป
กล่องพัสดุเบอร์ C20 x 30 x 11สินค้าขนาดกลาง เช่น กระเป๋าเล็ก ๆ หรือของใช้ในครัวเรือน
กล่องพัสดุเบอร์ D22 x 35 x 14สินค้าขนาดกลางถึงใหญ่ เช่น รองเท้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก
กล่องพัสดุเบอร์ E24 x 40 x 17สินค้าขนาดใหญ่ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนมขนาดใหญ่, ของใช้ในครัวเรือนขนาดใหญ่
กล่องพัสดุเบอร์ F30 x 45 x 20สินค้าขนาดใหญ่มาก เช่น ต้นไม้เล็ก ๆ หรือตุ๊กตาขนาดใหญ่

ขนาดกล่องพัสดุและการเลือกใช้ให้เหมาะกับสินค้า - คู่มือเลือกกล่องไปรษณีย์สำหรับการขนส่ง

วิธีเลือกขนาดกล่องให้พอดีกับสินค้า

การเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณเป็นขั้นตอนที่สำคัญทั้งในด้านการประหยัดต้นทุนการขนส่งและการปกป้องสินค้าให้ปลอดภัยในระหว่างการขนส่ง การเลือกกล่องที่พอดีกับสินค้าจะช่วยให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้

1.พิจารณาขนาดและรูปร่างของสินค้า

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจขนาดและรูปร่างของสินค้าที่จะส่ง หากสินค้าของคุณมีขนาดเล็กและเป็นรูปทรงสม่ำเสมอ เช่น สินค้าแฟชั่น หรือเครื่องสำอาง การเลือกกล่องที่มีขนาดพอดีกับสินค้าจะช่วยให้สินค้าไม่เลื่อนหรือขยับไปมาในระหว่างการขนส่ง แต่ถ้าสินค้าของคุณมีรูปร่างที่ไม่สมมาตร เช่น ของใช้ในบ้านหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า คุณอาจต้องใช้กล่องที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาดสินค้าเล็กน้อย เพื่อให้สามารถใส่วัสดุกันกระแทกได้

2.ต้องมีพื้นที่เหลือสำหรับกันกระแทก

แม้จะเลือกกล่องที่พอดีกับสินค้าแล้ว การมีพื้นที่เล็กน้อยในกล่องเพื่อใส่วัสดุกันกระแทกเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับสินค้าที่บอบบาง เช่น เครื่องแก้ว, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสินค้าที่ต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ จากนั้นให้ใส่ฟองน้ำ, พลาสติกกันกระแทก หรือวัสดุรองอื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่สินค้าอาจจะเสียหายในระหว่างการขนส่ง

3.หลีกเลี่ยงการใช้กล่องใหญ่เกินไป

การเลือกกล่องที่ใหญ่เกินไปไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากจะเพิ่มต้นทุนในการขนส่ง กล่องที่ใหญ่เกินไปจะต้องการการจัดการที่มากขึ้น เช่น การห่อหุ้มด้วยวัสดุกันกระแทกมากขึ้น ทำให้ค่าขนส่งสูงขึ้น นอกจากนี้สินค้ายังอาจเคลื่อนไหวและได้รับความเสียหายในระหว่างการขนส่งได้ง่าย

ดังนั้นควรเลือกขนาดกล่องที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับสินค้าของคุณ

4.เลือกกล่องที่มีความแข็งแรงพอสมควร

นอกจากการเลือกขนาดกล่องแล้ว ความแข็งแรงของกล่องก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือสินค้าที่บอบบาง ควรเลือกกล่องที่มีความหนาและทนทาน ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งปลอดภัยและมั่นใจว่าสินค้าจะไม่เกิดความเสียหาย

5.พิจารณาน้ำหนักของสินค้า

น้ำหนักของสินค้าก็มีผลต่อการเลือกขนาดกล่องด้วย หากสินค้ามีน้ำหนักมาก ควรเลือกกล่องที่แข็งแรงและสามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม โดยไม่เลือกกล่องที่บางเกินไป เพราะอาจทำให้กล่องฉีกขาดหรือยุบตัวได้ในระหว่างการขนส่ง

6.พิจารณาเงื่อนไขของบริษัทขนส่ง

ทุกบริษัทขนส่งมักจะมีข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับขนาดและน้ำหนักของพัสดุ เช่น การจำกัดขนาดกล่องสูงสุดและผลรวมของความยาว, ความกว้าง และความสูงที่สามารถส่งได้ ก่อนเลือกกล่องพัสดุ ควรตรวจสอบข้อกำหนดของบริษัทขนส่งที่จะใช้ เพื่อให้การขนส่งไม่เกิดปัญหาหรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

สาระน่าอ่าน: ขายออนไลน์เลือกกล่องพัสดุ กล่องบรรจุภัณฑ์ให้ดี พิชิตใจลูกค้า

เลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะสม ช่วยลดต้นทุนและป้องกันความเสียหาย

ข้อกำหนด และเงื่อนไขเกี่ยวกับ ขนาดกล่องพัสดุ ของบริษัทขนส่ง

ในการเลือกขนาดกล่องพัสดุยังต้องคำนึงถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัทขนส่งต่าง ๆ ที่อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของพัสดุ ดังนี้

1.ไปรษณีย์ไทย

  • ขนาดกล่องพัสดุจะต้องไม่เกิน 60 เซนติเมตร (ด้านยาวที่สุด)
  • ผลรวมของความยาว, ความกว้าง และความสูงต้องไม่เกิน 150 เซนติเมตร

2.Kerry Express

  • ขนาดกล่องพัสดุจะต้องไม่เกิน 200 เซนติเมตร (ด้านยาวที่สุด)
  • ผลรวมของความยาว, ความกว้าง และความสูงต้องไม่เกิน 300 เซนติเมตร

3.J&T Express

  • ขนาดกล่องพัสดุจะต้องไม่เกิน 150 เซนติเมตร (ด้านยาวที่สุด)
  • ผลรวมของความยาว, ความกว้าง และความสูงต้องไม่เกิน 250 เซนติเมตร

การทำความเข้าใจข้อกำหนดเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกขนาดกล่องได้อย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงปัญหาในการขนส่งที่อาจเกิดขึ้น

สรุป

การเลือกขนาดกล่องพัสดุ ที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการขนส่งสินค้า ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณควรเลือกขนาดกล่องให้พอดีกับขนาดสินค้าของคุณ พร้อมทั้งคำนึงถึงการกันกระแทกและข้อกำหนดของบริษัทขนส่งต่างๆ เพื่อให้การขนส่งเป็นไปได้อย่างราบรื่นและประหยัดที่สุด

อ่านบทความเพิ่มเติม: ประเภทกล่องพัสดุ ที่นิยมใช้ และข้อดี-ข้อเสีย ของแต่ละรูปแบบ